top of page

รีวิวคาร์ซีทสำหรับขับรถในอเมริกา

คาร์ซีทสำหรับเด็กทารกเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในอเมริกา เพราะว่ากฎหมาย Child Passenger Safety Laws บังคับให้เด็กทุกคนต้องนั่งคาร์ซีทตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 8 ขวบหรือส่วนสูงเกิน 4 ฟุต 9 นิ้ว (ประมาณ 145 ซม.) หลังจากนั้นจนกว่าจะอายุ 12 ปี เด็กต้องนั่งเบาะหลังและรัดเข็มขัด ห้ามนั่งตรงที่มีถุงลมนิรภัยทำงาน

การนั่งคาร์ซีท มีหลักๆ 4 ขั้นตามช่วงอายุ คือ

  • แบบนั่งหันหลัง (rear-facing seat) สำหรับแรกเกิด ถึง 1 ขวบ หรือน้ำหนัก 20 ปอนด์ (ประมาณ 9 กก.)

  • แบบนั่งหันหน้า (forward-facing seat) สำหรับ 1 ขวบ ถึง 4 ขวบ

  • แบบบูสเตอร์ (booster seat) สำหรับ 4 ขวบ ถึง 8 ขวบ

  • หลังจากนั้นนั่งเบาะหลังและรัดเข็มขัดเหมือนผู้ใหญ่ ตามกฎหมายน้องต้องนั่งเบาะหลังไปจนกว่าจะอายุ 12 ขวบ

ข้างบนคือที่กฎหมายกำหนด แต่ถ้าเราไปเดินเลือกคาร์ซีทก็จะมีบางยี่ห้อโฆษณาว่าเด็กเล็กควรนั่งหันหลังไปจนถึง 2 ขวบจะปลอดภัยที่สุด ซึ่งลูกคนโตของเรายังไม่ 2 ขวบดี แต่เริ่มจะสนใจสิ่งรอบตัว อยากดูวิวนอกหน้าต่าง อยากรู้ว่ารถวิ่งไปไหน อยากเห็นพ่อแม่ที่นั่งเบาะหน้า เรากับสามีเลยตัดสินใจปรับคาร์ซีทให้น้องนั่งหันหน้าดู ผลคือ น้องดูชอบมาก ไม่ค่อยงอแงเวลาขึ้นรถไปไหนมาไหนแล้ว ที่สำคัญคือ ไม่ต้องเอา iPad มาคอยเปิด vdo ให้ดูแก้เบื่ออีกต่อไป ก็เลยขอให้เป็นการตัดสินใจของคุณพ่อคุณแม่นะคะว่าจะให้น้องหมุนคาร์ซีทตอนไหนดี

ตัวคาร์ซีทเองก็มีหลายประเภทให้เลือก ถ้าอยากให้ใช้คุ้มตั้งแต่แรกเกิดถึง 8 ขวบเลยก็ซื้อแบบ All-in-one คือ หันหลังได้ หันหน้าได้ ปรับระดับการเอนของเบาะให้ตั้งตรงกลายเป็นบูสเตอร์ซีทได้ ยี่ห้อที่เพื่อนของเราที่เป็นทนายความด้าน personal injury แนะนำคือ Britax เพื่อนเราบอกว่าตั้งแต่ทำเคสอุบัติเหตุมามากยี่ห้อนี้พอเจออุบัติเหตุจริงแล้วช่วยป้องกันเด็กไม่ให้เป็นอะไรหนักค่ะ เพื่อนครอบครัวนี้จริงจังกับเรื่องนี้มากถึงขนาดว่า เวลาบ้านนี้บินไปเมืองอื่นแล้วต้องเช่ารถขับ เราจะถอดคาร์ซีทแบบ All-in-one ของ Britax ของลูกทั้ง 2 คนออกจากรถและโหลดไปกับกระเป๋าด้วย (ยังดีที่สายการบินให้โหลดคาร์ซีทและรถเข็นเด็กฟรี) ราคา Britax จะสูงกว่าชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้แพงที่สุด ใครสนใจก็ไปลองดูนะคะ

ส่วนบ้านเรา ใช้คาร์ซีทแบบ Convertible ที่ปรับหันหลัง-หันหน้า-บูสเตอร์ ยี่ห้อ Graco ราคาน่าคบกว่านิดนึง 😅 เราซื้อรุ่นที่ชื่อว่า Graco Extend2fit เพราะเขาโฆษณาว่าเวลาน้องที่ตัวสูงขึ้น แต่ยังไม่ครบ 2 ขวบ เวลานั่งหันหลังขาจะยาวแล้วกลายเป็นนั่งเข่างอไม่สบายตัว เอาเข้าจริงๆเราเอามาติดตั้งไว้เบาะหลังรถเก๋งซีดาน ปรากฏว่า คาร์ซีทอย่างเดียวก็เต็มเบาะหลังแล้วค่ะ ไม่ได้ใช้ที่ยื่นขาดังคำโฆษณาแต่อย่างใด

นอกจากนี้เรายังมี Convertible ของ Graco รุ่น SlimFIt ซึ่งอันนี้เราชอบมาก เพราะบ้านเรามีโอกาสที่จะต้องออกนอกบ้านโดยมีผู้ใหญ่ 3 คน เด็กเล็ก 2 คน ซึ่งเด็กเล็กแต่ละคนก็ต้องนั่งคาร์ซีทของตัวเองอยู่แล้ว ทีนี้ก็จะต้องมีผู้ใหญ่หนึ่งคนไปนั่งตรงกลางระหว่างคาร์ซีทของเด็ก รุ่น SlimFit ออกแบบมาให้ประหยัดเนื้อที่กว่ารุ่นอื่น ทำให้ผู้โดยสารเบาะตรงกลางสบาย มีที่ให้หายใจเพิ่มมาอีกนิดนึงค่ะ

คาร์ซีทอีกประเภทหนึ่งที่เราชอบมากและเหมาะกับบ้านที่มีทารกแรกเกิดคือ แบบตะกร้า หรือ Infant Car Seat ข้อเสียคือ อายุการใช้งานจะสั้นมากเพราะเดี๋ยวพอน้อง 1 ขวบก็น่าจะโตเกินแล้ว แต่ข้อดีคือ เวลาเราไปข้างนอก เช่น พาน้องไปฉีดวัคซีน ไปโบสถ์ ไปทานข้าวร้านอาาร เราสามารถถอดตะกร้าออกจากรถ และหิ้วไปทั้งๆที่น้องหลับอยู่ในตะกร้าได้เลย คาร์ซีทแบบตะกร้า ยี่ห้อที่เราใช้เพราะซื้อตามแม่ๆคนอื่นคือ Chicco KeyFit 30 ดีตรงที่ตัวตะกร้ากับตัวฐานที่ติดกับเบาะรถมันแยกออกจากกันได้ง่าย คลิกเข้าคลิกออกสะดวก และใช้ได้จนน้ำหนักตัว 30 ปอนด์ตามชื่อรุ่น (ประมาณ 13.6 กก.) ข้อเสียคือ เวลาหิ้วตะกร้าแบบมีน้องนั่งอยู่ด้วยค่อนข้างหนักเอาเรื่องเหมือนกัน คือลูกคนเล็กเราตัวเริ่มหนักด้วยค่ะ ถ้าหิ้วไม่ได้อาจต้องเสียเงินเพิ่มซื้อ stroller frame สำหรับวางตะกร้ามาโดยเฉพาะค่ะ

bottom of page